เรื่องย่อ
เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ชื่อ ทาเคะ เซย์จิ เป็นฟรีเตอร์หนุ่มวัย 25 ไร้ฝัน ไร้เงิน และเฉียดๆ ไร้ค่า เซย์ จิ พลาดหวังการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งแรก ทำให้ต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นสามในปีถัดมา
เมื่อจบการศึกษาก็เข้าทำงานที่บริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับธรรมเนียมบริษัทได้จึงลาออกตั้งแต่ทำงานได้สามเดือน และในเมื่อไม่มีหาโอกาสกลับเข้าทำงานใหม่ไม่ได้ เขาจึงได้แต่ทำงานพาร์ทไทม์ไปพลางๆ และเมื่องานไม่ค่อยจะราบรื่น เซย์จิมีก็มีอันต้องเปลี่ยนจากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่งเสมอๆ ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาต้องทะเลาะกับพ่ออยู่บ่อยๆ จนสุดท้ายก็ขังตัวอยู่ในห้อง เพราะไม่อยากเจอหน้าพ่อตัวเอง ในวันที่ไม่มีทั้งงาน และเงิน เขาก็ต้องช็อคเมื่อได้มารู้ว่าแม่ของเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ความจริงที่น่าตกใจแล่นเข้ามาในห้วงคิด นี่เขาควรจะต้องเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวไม่ใช่หรือไม่ เมื่อคิดได้ว่าตัวเองช่างไร้ค่า ขนาดค่ากับข้าวในบ้านยังรับภาระไม่ได้ เซย์จิก็หางานที่ได้ค่าจ้างมากกว่าเดิม ที่ไซต์งานก่อสร้างซึ่งเป็นที่ที่เขาได้พบสาวน้อยสดใสและแสบสันต์อย่าง มินามิ รวมถึงหัวหน้างาน จากที่เคยนึกดูถูกและสร้างกำแพงกั้นใจ รักษาระยะห่างกับคนงานทั้งหลาย กาลเวลาผ่านไปเมื่อได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้สึกในใจของเซย์จิก็เปลี่ยนไป เขาจึงได้เรียนรู้ความหมายของคำว่า "ชีวิต" และ "งาน" จากที่แห่งนี้นี่เอง
ขอขอบคุณเรื่องย่อจาก www.thesisterme.com
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
Freeter เป็นศัพท์ญี่ปุ่นที่หมายถึงบุคคลอายุ 15-34 ปีที่ยังไม่มีงานทำ หรือทำงานต่ำกว่าวุฒิของตนเอง ใน category เดียวกันนี้ยังมีศัพท์อีกหลายคำที่เกี่ยวข้องได้แก่ NEET และ Hikikomori NEET นั้นหมายถึง Not in Education Employment or Training คือกลุ่มคนที่อายุระหว่าง 15-34 ปี ที่ไม่เรียน ไม่ทำงาน หรือเรียนจบแล้วไม่ยอมศึกษาต่อในระดับที่สูงกว่า เที่ยวเล่นไปวัน ๆ ต่างจาก Freeter ตรงที่ฝ่ายหลังยังทำงานบ้าง แม้จะได้ค่าจ้างไม่มาก ส่วน Hikikomori คงจะพบทราบบ้างว่าเป็นอาการต่อต้านสังคม เก็บตัว สื่อสารผ่านทาง internet เท่านั้น จะออกจากห้องในเวลาที่คนอื่น ๆ ในบ้านหลับแล้ว หรือ ออกมาเข้าห้องน้ำ มากินข้าว เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นอาการรวม ๆ ที่เรียกว่า parasite single อันหมายถึง บุคคลที่เกาะบิดามารดาไปวัน ๆ การงานไม่ทำ หรือ มีงานทำแต่ไม่มั่นคง ไม่สามารถอยู่ด้วยตนเองได้
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ฟรีแลนซ์ มาจนชินหูมาบ้างแล้ว ฟรีเตอร์ ล่ะ เคยได้ยินหรือเปล่า ฟรีเตอร์ นั้นถือเป็นอาชีพใหม่ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นนิยมทำกันมาก โดยพวกเขาหันมาทำงานพาร์ทไทม์ รับค่าแรงเป็นรายชั่วโมง แทนการทำงานประจำรับค่าแรงรายเดือน ที่สำคัญพวกเขาจะทำงานตามใจตัวเอง ถ้าไม่มีอารมณ์ก็ไม่ทำ ถ้าอยากทำถึงจะทำ และไม่ค่อยทำงานไหนนาน ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ พอทำงานเก็บเงินสักพักก็ออกเดินทางท่องเที่ยว พูดให้ง่ายๆ หน่อยก็คือ รับจ้างทำงานทั่วไปนั่นแหละ แต่ไม่ทำประจำนะ เน้นทำแบบพาร์ทไทม์อย่างเดียว
ฟังดูเหมือนว่าจะดีนะว่ามั้ย แต่เชื่อเถอะรัฐบาลพี่ยุ่นเค้าไม่ปลื้มด้วยหรอกเพราะรัฐจะขาดรายได้ จากการ
จัดเก็บภาษี และเศรษฐกิจในอนาคตก็อาจจะไม่เติบโตเท่าที่ควร นอกจากนี้เค้าถือยังถือว่าพวกฟรีเตอร์เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ขาดทักษะเฉพาะด้าน แถมยังมีแนวคิดการใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วย
Freeter เป็นศัพท์ญี่ปุ่นที่หมายถึงบุคคลอายุ 15-34 ปีที่ยังไม่มีงานทำ หรือทำงานต่ำกว่าวุฒิของตนเอง ใน category เดียวกันนี้ยังมีศัพท์อีกหลายคำที่เกี่ยวข้องได้แก่ NEET และ Hikikomori NEET นั้นหมายถึง Not in Education Employment or Training คือกลุ่มคนที่อายุระหว่าง 15-34 ปี ที่ไม่เรียน ไม่ทำงาน หรือเรียนจบแล้วไม่ยอมศึกษาต่อในระดับที่สูงกว่า เที่ยวเล่นไปวัน ๆ ต่างจาก Freeter ตรงที่ฝ่ายหลังยังทำงานบ้าง แม้จะได้ค่าจ้างไม่มาก ส่วน Hikikomori คงจะพบทราบบ้างว่าเป็นอาการต่อต้านสังคม เก็บตัว สื่อสารผ่านทาง internet เท่านั้น จะออกจากห้องในเวลาที่คนอื่น ๆ ในบ้านหลับแล้ว หรือ ออกมาเข้าห้องน้ำ มากินข้าว เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นอาการรวม ๆ ที่เรียกว่า parasite single อันหมายถึง บุคคลที่เกาะบิดามารดาไปวัน ๆ การงานไม่ทำ หรือ มีงานทำแต่ไม่มั่นคง ไม่สามารถอยู่ด้วยตนเองได้
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ฟรีแลนซ์ มาจนชินหูมาบ้างแล้ว ฟรีเตอร์ ล่ะ เคยได้ยินหรือเปล่า ฟรีเตอร์ นั้นถือเป็นอาชีพใหม่ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นนิยมทำกันมาก โดยพวกเขาหันมาทำงานพาร์ทไทม์ รับค่าแรงเป็นรายชั่วโมง แทนการทำงานประจำรับค่าแรงรายเดือน ที่สำคัญพวกเขาจะทำงานตามใจตัวเอง ถ้าไม่มีอารมณ์ก็ไม่ทำ ถ้าอยากทำถึงจะทำ และไม่ค่อยทำงานไหนนาน ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ พอทำงานเก็บเงินสักพักก็ออกเดินทางท่องเที่ยว พูดให้ง่ายๆ หน่อยก็คือ รับจ้างทำงานทั่วไปนั่นแหละ แต่ไม่ทำประจำนะ เน้นทำแบบพาร์ทไทม์อย่างเดียว
ฟังดูเหมือนว่าจะดีนะว่ามั้ย แต่เชื่อเถอะรัฐบาลพี่ยุ่นเค้าไม่ปลื้มด้วยหรอกเพราะรัฐจะขาดรายได้ จากการ
จัดเก็บภาษี และเศรษฐกิจในอนาคตก็อาจจะไม่เติบโตเท่าที่ควร นอกจากนี้เค้าถือยังถือว่าพวกฟรีเตอร์เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ขาดทักษะเฉพาะด้าน แถมยังมีแนวคิดการใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วย
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 01 - 1
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 01 - 2
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 02 - 2
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 01 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 02 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 02 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 03 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 03 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 04 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 04 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 05 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 05 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 06 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 06 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 07 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 07 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 08 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 08 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 09 - 1Freeter ie wo kau [บรรยายไทย] ตอนที่ 09 - 2
—(•·÷[ ✿ ]÷·•)—
{[['']]}